รูปภาพประกอบ |
DSI. แถลง ยึดรถ 122 คัน รัฐเสียหายกว่า 2,400 ล้านบาท! บุกค้นขบวนการนำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษี ยึด!ตามนโยบายของ กระทรวงยุติธรรมนำมาขยายผลต่อตามจับผู้ประกอบการต่อตามข่าว
ที่(ดีเอสไอ)กทม.: ต่อมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2560 พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า ตามที่ กระทรวงยุติธรรมได้มีนโยบายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามกลุ่มขบวนการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบและหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร อันส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐ และสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก นั้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน กรณีการนำเข้ารถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร และสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง พบว่าบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์ได้ระบุราคาสินค้าในใบขนสินค้าขาเข้าที่ผู้นำเข้าต้องแสดงต่อกรมศุลกากรเพื่อเสียภาษีอากร โดยมีการสำแดงราคาต่ำกว่าราคาเป็นจริง ซึ่งราคาโดยเฉลี่ยที่ผู้นำเข้าสำแดง คือ ไม่เกินร้อยละ 40 ของราคารถยนต์ที่บริษัทผู้ผลิตในประเทศต้นกำเนิดรถยนต์จำหน่าย จากข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น พบรถยนต์เลี่ยงภาษีที่นำเข้ามาจำหน่ายเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงและมีราคาแพงก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ
ที่(DSI.) กทม.: เมื่อวันที่ 18 พ.ค.60 ท่านรองอธิบดีฯ พ.ต.ท.กรวัชร ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เผยว่า(ตนเองได้ขยายผลจากรถหรูที่ไฟไหม้รถในอำเภอปากช่อง) จึง ได้นำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าตรวจค้นแหล่งนำเข้ารถยนต์หรูหลบเลี่ยงภาษี 9 จุดว่าในวันนี้ ทางดีเอสไอ ได้ดำเนินการตรวจค้นต่อเนื่องจากหมายค้นของศาลอาญา โดยการตรวจสอบพบว่าบริษัทนี้ได้นำเข้ารถหรู!โดย เบื้องต้นพบว่าขบวนการนำเข้ารถยนต์หรูรายนี้ไม่ใช่ รถจดประกอบนำเข้า ซึ่งรัฐบาลออกกฎหมายห้ามนำเข้าเด็ดขาดแล้ว! แต่เป็นการนำเข้ารถยนต์ของ(กลุ่มเกรย์มาร์เก็ต ในลักษณะการทำใบอินวอยซ์ปลอมเพื่อสำแดงราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง) เพื่อหลบเลี่ยงภาษีในการนำเข้ารถยนต์ทั้งคัน สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้ดีเอสไออายัดรถหรูในโชว์รูม 60 คัน อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะดำเนินคดีย้อนหลังกับผู้นำเข้ารายนี้ตามที่ได้สืบสวน ซึ่งพบการแสดงใบอินวอยซ์ปลอม! สำหรับรถยนต์ของกลางจะไม่ขนย้ายมาที่ดีเอสไอ แต่จะสั่งอายัดและเก็บรักษาไว้ที่โชว์รูม โดยห้ามเคลื่อนย้ายและไม่ให้มีซื้อขายเด็ดขาด!
สำหรับ พื้นที่เป้าหมาย 9 จุด ที่ดีเอสไอเข้าตรวจค้น เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการนำเข้ารถยนต์หรูหลีกเลี่ยงภาษี ประกอบด้วย 1.บริษัทนิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด (ริมถนนมอเตอร์เวย์) เลขที่ 2388 ถ.พระราม 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. 2. โชว์รูมลัมโบกินี ของบริษัทนิชคาร์ ชั้น 2 ห้างสยามพารากอน 3.อพาร์ทเมนต์ผ่องศรี เลขที่ 9/128 ซอยรามคำแหง 105/1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. 4. บ้านเลขที่ 8/47 ม.2 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 5.บ้านเลขที่ 335/382 ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. 6.บ้านเลขที่ 49 ซ.รามคำแหง 54 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. 7. เต๊นท์รถเลียบทางด่วนรามอินทรา เลขที่ 999/9 ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. 8. บริษัทเอสทีที ออโต้คาร์ เลขที่ 41 ถ.เทียนร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. และ 9. บ้านเลขที่ 267/13-14 ถ.สุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. รวมแล้วที่ ดีเอสไออายัดรถหรูทั้งหมด 122 คัน สำหรับบริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัดนั้น เป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์ แลมโบร์กินี, แมคลาเรน, ปากานี, โคนิกเซ็กก์, โลตัส และฮัมเมอร์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย และเป็นผู้นำเข้ารถหรูรายใหญ่ในระดับเอเชีย.
รวมรถยนต์ที่อายัดจำนวน 122 คัน เป็นรถหลายยี่ห้อ อาทิเช่น ลัมโบกินี, แมคคาเรน, โลตัส เป็นต้น ซึ่งภาษีที่ขาดโดยเฉลี่ยต่อคันประมาณ 10 – 18 ล้านบาทต่อคัน ซึ่งรวมแล้วรัฐเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 2,400 ล้านบาท ตามข่าว(PR.DSI.ข้อมูล/ปอ มหาชนนำเสนอข่าว)เข้าไปดูข่าวออนไลน์ทั่วโลกได้ที่....www.news-mahachon.com