รูปภาพประกอบ |
ท่าน นฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุด(พยัคฆ์ไพร)กรมป่าไม้ร่วมกับ DSI(กอ.รมน.)และตำรวจภูจังหวัดแพร่จับ(แร่เถื่อน)ซุก!อยู่ในโกดังรัฐเสียหายมูลค่า(สิบแปดล้านบาท)ส่ง สภ.เวียงต้าขยายผลไปสู่เส้นทางในการขนแร่เถื่อนไปที่สงขลาต่อไปตามข่าว
ที่สภ.อ.เวียงต้าจังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2562 ท่าน นฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้รับคำสั่งจากท่าน อรรถพล เจริญพรรษา อธิบดีกรมป่าไม้ ให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ไปทำการจับกุมดังกล่าว ได้ประสานไปยังท่าน พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ เพื่อขอกำลังรายเจ้าหน้าที่ มาร่วมกับ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. เจ้าหหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เวียงต้า และสืบสวนจังหวัดไปทำการตรวจข้นโกดังไม่มีเลขที่อยู่ที่ ต.เวียงต้า อ.ลอง จ.แพร่ เข้าทำการตรวจข้นโกดังพบแร่เถื่อนเป็นจำนวนมากอยู่ในโกดัง จึงทำการตรวจยึดแร่ดังกล่าวไปขยายผลในการจับกุมส่งพนักงานสอบสวนดังกล่าวต่อไป
ต่อมาขยายผล นำเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สงขลา เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 ภาคใต้ ตำรวจกองกำกับการ 6 บก.ปทส. อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 1 สงขลา และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ ภายใต้การอำนวยการของนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ขยายผลเข้าตรวจสอบโกดังเก็บสินค้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลชิงโค อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา หลังจากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษขยายผลจนพบข้อมูลว่ามีการนำแร่แบไรต์จากเหมืองศศิน จำกัด ขายให้กับบริษัทเอกชนในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรีเพื่อทำการตกแต่งแร่ จากนั้นขนส่งไปเก็บในโกดังที่สิงหนคร จังหวัดสงขลา
ขณะเข้าตรวจค้นภายในโกดัง เจ้าหน้าที่พบผู้จัดการบริษัทฯ จึงได้นำตรวจค้นพบแร่แบไรต์อยู่ในถุงบิ๊กแบคจำนวนมาก โดยอ้างว่าผงแร่สีขาวได้นำเข้าจากประเทศลาว ส่วนแร่สีแดงได้ซื้อมาจากเหมืองศศิน จำกัดที่อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ซึ่งตรงกับคำให้การของเจ้าของบริษัทที่สระบุรี ที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นเมื่อวานที่ผ่านมา โดยแร่ทั้งหมดส่งต่อให้กับบริษัทเอกชนรายใหญ่อีก 2 แห่ง ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า มีแร่ที่นำมาจากเหมืองศศินจำนวน 1,232 กระสอบ กระสอบละ 1.5 ตัน โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าแร่ดังกล่าวเป็นแร่ที่ออกมาจากเหมืองศศินตามใบสั่งซื้อของบริษัท และจากคำให้การของผู้จัดการบริษัท จึงได้อายัดแร่แบไรต์ทั้งหมด พร้อมสั่งห้ามย้ายออกจากโกดังสินค้าโดยเด็ดขาด หากพบว่ามีการเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะดำเนินการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้เจ้าของบริษัทนำเอกสารเข้าชี้แจง เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป เบื่องต้นได้นำบันทึกการอายัติไปลงประจำวันที่ สถานีตำภูธรสิงหนครจ.สงขลา ไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้วค่าเสียหาย ทั้งหมด(18 ล้านบาท ที่รัฐเสียหาย) ตามข่าว (ปอ คลองตัน/รายงาน)นสพ.นิวส์มหาชนออนไลน์นำเสนอข่าวเข้าไปดูข่าวได้ที่...www.news-mahachon.com