รูปภาพประกอบ |
ท่านธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่านอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ได้มาตรวจสอบการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม ( ม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง )ตามข่าว
ที่ม่อนแจ่มตำบล แม่แรม อำเภอ แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ผู้สื่อข่าวรายงานเข้ามาว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม 2563 ณ. กองอำนวยการแก้ไขปัญหาที่ดิน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม ( ม่อนแจ่ม และพื้นที่ใกล้เคียง ) ท่านธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่านอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ได้เข้าร่วมในการประชุมเพื่อติดตามงานแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม
( ม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง ) โดยมี ท่าน กลม นวลใย ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่1 ( เชียงใหม่ )บรรยายสรุปการติดตามผลการดำเนินงานการควบคุมพื้นที่และรายงานอุปสรรคปัญหาในการดำเนินงานตรวจสอบจำนวน 116ราย สถานประกอบการพื้นที่ ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม จำนวน 113ราย ดำเนินคดีแล้ว 29 ราย และดำเนินคดีตามมาตรา 29 และมาตรา 30 ไปแล้วมีการโต้แย้งสิทธิ จำนวน 29 ราย ดำเนินการตาม มาตรา 25 จำนวน 14 รายมีการพิจารณาคุณสมบัติจำนวน 84 ราย ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอีกจำนวน 19 รายส่งข้อมูลให้ คณะกรรมการจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาตามพระราชบัญญัติอื่นๆอีกจำนวน 65 ราย ในการดำเนินการตามมาตรา 25 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 จำนวน29 คดี อยู่ในระหว่างในการดำเนินการตามมาตรา 29 และมาตรา 30 ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองส่วนพื้นที่ ที่ยังไม่ได้ดำเนินคดีอีก 84 ราย นายธเนศพล ธนยุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทวนถามข้อมูลตัวเลขสถานประกอบการที่ได้ดำเนินการตรวจสอบมีทั้งหมด จำนวน 113 รายได้ดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 29 รายในการดำเนินคดีมีประเด็นเดี่ยวคือ การเปลี่ยนมือเป็นการดำเนินการประกอบธุระกิจอย่างชัดเจนเปลี่ยนมือให้บุคคลภายนอกเปลี่ยนมือบุกรุกขยายเพิ่มซึ่งมีความผิดคนแทนถือหลักทรัพย์ ( นอมินี ) เมื่อเปลี่ยนมือก็ไม่ใช่เกษตรกรทำการเกษตรแล้วผิดวัตถุประสงค์ส่วนอีก 84 ราย ไม่ได้เปลี่ยนมือก็ส่งให้ทางการจังหวัดเชียงใหม่ช่วยตรวจสอบดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป ส่วนข้อเท็จจริงคือความชัดเจนจริงๆก็ต้องให้ความเป็นทำแก่ราษฏรในส่วนของเกษตรกรโดยเฉพาะ 84 รายต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่าทางการไม่ได้มีเจตนาในการขับไล่ท่านให้ท่านออกจากพื้นที่แต่อย่างไดเลย เจตนาที่แท้จริงและเจตนารมณ์คือ ต้องการให้ท่านใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตตามวัตถุประสงค์ของโครงการหลวงอย่างถูกวิธีตามข้อกฏหมายฉะนั้นในส่วนของ 84 ราย ขอให้จังหวัดเชียงใหม่ช่วยพิจารณาในรูปแบบของคณะกรรมการเพื่อความเหมาะสมดังกล่าวตามข่าว(พจน์ มหาชน/ข้อมูล/ปอ ป่าลั่น/รายงาน)นสพ.นิวส์มหาชนออนไลน์ทั่วโลกนำเสนอข่าวเข้าไปดูข่าวได้ที่...www.news-mahchon.com