ท่าน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เขตสุขภาพที่ 8 ปลื้มใจ!!!ศาลปกครองกลาง เพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ กรณีย้ายรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้การเพิกถอนมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ให้กลับไปเป็

พฤหัสบดี ที่ 19 กรกฏาคม 2561 จำนวนอ่าน 6617 ครั้ง

รูปภาพประกอบ

ท่าน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เขตสุขภาพที่ 8 ปลื้มใจ!!!ศาลปกครองกลาง เพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ  กรณีย้ายรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้การเพิกถอนมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ให้กลับไปเป็
 
ท่าน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เขตสุขภาพที่ 8 ปลื้มใจ!!!ศาลปกครองกลาง เพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ  กรณีย้ายรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้การเพิกถอนมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ให้กลับไปเป็
 
ท่าน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เขตสุขภาพที่ 8 ปลื้มใจ!!!ศาลปกครองกลาง เพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ  กรณีย้ายรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้การเพิกถอนมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ให้กลับไปเป็
 
ท่าน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เขตสุขภาพที่ 8 ปลื้มใจ!!!ศาลปกครองกลาง เพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ  กรณีย้ายรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้การเพิกถอนมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ให้กลับไปเป็
 

ท่าน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เขตสุขภาพที่ 8 ปลื้มใจ!!!ศาลปกครองกลาง เพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ กรณีย้ายรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้การเพิกถอนมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ให้กลับไปเป็

 

ท่าน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เขตสุขภาพที่ 8 ปลื้มใจ!!!ศาลปกครองกลาง เพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ  กรณีย้ายรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้การเพิกถอนมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ให้กลับไปเป็นรองปลัดฯตามข่าว

 

ที่ ศาลปกคลองกลาง กทม.  ผู้สื่อข่าวประจำกระทรวสาธาณสุขรายงานเข้ามาเมื่อ วันที่ 17 กรกฏาคม 2561 ว่า ศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ กระทรวงฯ ย้ายท่านผู้ตรวจเขต8 กลับมารับตำแหน่งเดิม  เรื่องเดิมมีอยู่ว่า ผู้ฟ้องคดีดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับความเดือดร้อนหรือ เสียหายจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ เสนอแต่งตั้งให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรง ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ต่อมา คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามเสนอเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ ผู้ฟ้องคดีจึงมีหนังสือลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ ร้องทุกข์กรณีดังกล่าวต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ ต่อมา ได้มีประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และแต่งตั้งให้ดำรงต าแหน่งผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป ผู้ฟ้องคดีจึงมีหนังสือลงวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ร้องทุกข์กรณีดังกล่าวต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ (แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ ไม่รับคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดี ตามหนังสือลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ ไว้พิจารณา) ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และที่ ๓ เสนอแต่งตั้ง โยกย้ายผู้ฟ้องคดีดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ มีคำวินิจฉัยไม่รับคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้อง คดีไว้พิจารณา เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีคำขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง (๑) เพิกถอน ประกาศส านักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน เฉพาะในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับผู้ฟ้องคดี และให้คืนสิทธิหน้าที่และผลประโยชน์แก่ผู้ฟ้องคดี (๒) เพิกถอนคำวินิจฉัยของผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๔ และ (๓) ขอค่าเสียหายจากการกระทำละเมิดของผู้ถูกฟ้องคดีที่เกี่ยวข้องกับการย้ายผู้ฟ้องคดี และค่าเสียหาย กรณีผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ ไม่รับคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณา    ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การโยกย้ายผู้ฟ้องคดีไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นการใช้ ดุลพินิจของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และที่ ๓ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร และโดยที่การแต่งตั้งข้าราชการเพื่อย้ายสับเปลี่ยนจาก ตำแหน่งรองปลัดกระทรวงให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงความแตกต่างกันในบทบาทและอำนาจหน้าที่ อย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นเรื่องของการบริหารบุคคลที่ผู้บังคับบัญชาจะดำเนินการได้โดยคำนึงถึงข้อเท็จจริง เหตุผล ความจำเป็น ตลอดจนความเหมาะสม และประโยชน์ของหน่วยงานตามเจตนารมณ์ และหลักการที่กำหนดไว้ใน มาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นกรณีที่มีบทบัญญัติของกฎหมาย

   ศาลปกครองกลางเพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี  กรณีย้ายรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  โดยให้การเพิกถอนมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ

         ส่วนข้อที่ผู้ฟ้องคดีขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายจากการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่เกี่ยวกับการย้าย ผู้ฟ้องคดีนั้น โดยที่มูลเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้มีมูลเหตุมาจากปัญหาการใช้และการตีความกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งตั้ง หรือมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มภารกิจ ระหว่างผู้ฟ้องคดีกับผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ตามมาตรา ๒๑ วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแม้จะเป็นความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างกัน ก็ยัง ไม่อาจรับฟังได้ว่าเหตุผลที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ มีความเห็นว่าผู้ฟ้องคดีเข้าใจข้อกฎหมายคลาดเคลื่อนในประเด็น ดังกล่าวเกิดจากการใช้ดุลพินิจโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากการใช้และ การตีความกฎหมาย ประกอบกับความเสียหายที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างในคำฟ้อง ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่จะรับฟังได้ว่า เป็นผลโดยตรงจากการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และที่ ๓ การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และที่ ๓ จึงไม่เป็นการ กระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี   

            สำหรับคำวินิจฉัยของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ ที่ไม่รับคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดี เนื่องจากขณะที่ผู้ฟ้องคดี ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ นั้น ผู้ฟ้องคดียังดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และยังคงปฏิบัติ หน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าว จึงยังไม่เกิดสิทธิที่ผู้ฟ้องคดีจะนำมาร้องทุกข์ได้ จึงเป็นคำร้องทุกข์ที่ห้ามรับไว้พิจารณา กรณีจึงไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี     ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เฉพาะในส่วนที่ให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งรอง    

             ปลัดกระทรวง และแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ส านักงานปลัดกระทรวง ทั้งนี้ ให้การเพิกถอนมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ คือ วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการ ดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาตามนัยมาตรา ๖๙ วรรคหนึ่ง (๘) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธี พิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และที่ ๓ ชอบที่จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายให้ ผู้ฟ้องคดีได้กลับสู่ตำแหน่งรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่มีคำพิพากษา คำขออื่น นอกจากนี้ให้ยกดังกล่าว

(คน  จอหอ/รายงาน)นสพ.นิวส์มหาชนออนไลน์ทั่วโลกนำเสนอข่าวเข้าไปดูข่าวได้ที่...www.news-mahachon.com


 

นสพ.นิวส์มหาชนออนไลน์นำเสนอข่าวทั่วโลกเข้าไปดูมือถือของท่านได้ที่..www.news-mahachon.com

Tag : ท่าน นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เขตสุขภาพที่ 8 ปลื้มใจ!!!ศาลปกครองกลาง เพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ กรณีย้ายรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้การเพิกถอนมีผลย้อน



ข่าวยอดนิยม @ข่าวสังคมมหาชนนิวส์มหาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง @ข่าวสังคมมหาชนนิวส์มหาชน